Bangkok Tailor

ประวัติความเป็นมาของชุดสูทผู้ชาย


ประวัติความเป็นมาของชุดสูทผู้ชาย

          ลอร์ดเทเลอร์ชวนคุณเดินทางย้อนเวลาไปค้นหาประวัติความเป็นมาของชุดสูทกันหน่อยว่า ชุดสูทที่ได้รับความนิยมและถูกยกให้เป็นเครื่องแต่งกายแบบทางการของผู้ชายในปัจจุบันนั้น ในอดีตมีจุดเริ่มต้นมาอย่างไร ในแต่ละยุคสมัยมีรูปแบบของชุดสูทที่แตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งใครคือผู้อยู่เบื้องหลังของชุดสูทที่ทำให้ชุดสูทได้ชื่อว่าเป็นเครื่องแต่งกายที่มีความคลาสสิกและร่วมสมัยมาได้อย่างยาวนาน

สูทคืออะไร

          สูท หรือ suit มาจากภาษาฝรั่งเศสคำว่า “suivre” ซึ่งมีความหมายว่า “to follow” หรือ “ตามกัน” นั่นหมายความว่า สูท คือ การทำให้เสื้อสูท (แจ็กเกต) กับกางเกง สามารถจับคู่ให้เข้ากันได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นโทนสี เนื้อผ้า รวมไปถึงองค์ประกอบอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

ความหมายของชุดสูท

          ชุดสูท หมายถึง ชุดเสื้อผ้าที่เสื้อและกางเกงถูกตัดเย็บขึ้นมาจากเนื้อผ้าชนิดเดียวกัน และจัดว่าเป็นเครื่องแต่งกายที่เป็นทางการแบบดั้งเดิมของผู้ชายมาตั้งแต่สมัยอดีตตั้งแต่สี่ร้อยปีก่อนจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบตามแต่ละยุคสมัย โดยยังรักษาจุดเด่นสำคัญ ‘ชุดสูท คือ สัญลักษณ์ของเครื่องแต่งกายที่บ่งบอกถึงความมีอารยะ อำนาจ และส่งเสริมให้ภาพลักษณ์ของผู้สวมใส่ดูสุภาพและน่าเชื่อถือ’

จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงชุดสูท

          หลังจากการปฏิวัติฝรั่งเศส การแต่งกายแบบชุดราชสำนักตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ซึ่งมีรูปแบบของการใส่วิก สวมเสื้อสูทตัวยาวคู่กับกางเกงขายาวระดับเข่า (Breeches) และปิดด้วยถุงเท้ายาว เริ่มได้รับความนิยมลดลง และถูกแทนที่ด้วยการแต่งกายที่มีความเรียบง่ายมากยิ่งขึ้น

ยุครีเจนซี่ (Regency)

          ยุครีเจนซี่ (Regency) นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของชุดสูทรูปแบบโมเดิร์นที่เห็นได้โดยทั่วไปในปัจจุบัน โดยเริ่มตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 ผู้อยู่เบื้องหลังในการปรับเปลี่ยนชุดสูทชาวอังกฤษนามว่า โบ บรัมเมลล์ (Beau Brummell) เป็นผู้นำการออกแบบชุดสูทที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นชุดสูทที่ผ่านการตัดเย็บมาอย่างดี และประดับด้วยเนกไทที่ผูกไว้อย่างประณีต โดดเด่นด้วยเสื้อสูทเข้ารูปสีเข้มสวมทับเสื้อสีขาวที่ถูกประดับด้วยเนกไทแทนการผ้าผูกคอในสมัยก่อน ใส่คู่กับกางเกงรัดรูปคนละโทนสีกับเสื้อ ปิดท้ายด้วยรองเท้าบูตสูงถึงเข่า ซึ่งลดทอนต้นแบบจากชุดราชสำนักของอังกฤษให้เป็นรูปแบบที่สามารถสวมใส่ได้ง่ายขึ้น แตกต่างจากการแต่งกายในอดีตที่เน้นความหรูหราฟู่ฟ่า ซึ่งบ่งบอกถึงสถานะของผู้สวมใส่ที่อยู่ในกลุ่มชนชั้นสูงเท่านั้น

ยุควิกตอเรีย (Victoria)

          ยุควิกตอเรีย (Victoria) คือ ยุคที่เสื้อโค้ตตัวยาวและหูกระต่ายสีดำ ได้รับความนิยมจากผู้ชายในยุคสมัยนั้น จนทำให้เกิดเป็นกระแสการใส่ชุดสูทในเชิงธุรกิจมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเป็นการใส่สำหรับในทางราชการเท่านั้น ดังนั้น เมื่อชุดสูทสามารถเข้าถึงได้ง่าย รูปแบบของชุดสูทจึงถูกปรับเปลี่ยนให้มีความเป็นทางการน้อยลง เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและยุคสมัยมากยิ่งขึ้น และในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เมื่อการแต่งกายด้วยชุดสูทแบบไม่เป็นทางการได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้น ชุดเลาจน์ (Lounge suit) จึงกลายเป็นชื่อเรียกชุดสูทที่ใช้สวมใส่ในการพบปะสังสรรค์แบบไม่เป็นทางการในเวลากลางวันนั่นเอง ในขณะที่ฝรั่งอเมริกาก็เกิดความนิยมชุดทักซิโด (Tuxedo) ในโอกาสร่วมงานสังสรรค์ช่วงในเวลากลางคืนอย่างแพร่หลาย

          ซึ่งประเภทของชุดสูททั้ง 2 ประเภทที่กล่าวมาข้างต้น ลอร์ดเทเลอร์ได้เคยรวบรวมไว้ให้ใน 7 ลำดับความเป็นทางการของชุดสูทผู้ชายที่คุณควรรู้ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจในชุดสูทแต่ละประเภทได้อย่างถูกต้องตามแต่ละโอกาสนั่นเอง

ยุคเอ็ดเวิร์ด (Edward)

          ยุคเอ็ดเวิร์ด (Edward) ในต้นศตวรรษที่ 20 คือ ยุคของการใส่เสื้อสูทผูกเนกไทและกางเกงขายาวเป็นเรื่องในชีวิตประจำวันของผู้คนในสังคม ชุดสูทกลายเป็นการแต่งกายที่ได้รับความนิยมจนได้รับการยอมรับว่าเป็นมาตรฐานการแต่งกายในการออกงานของสังคมในเมือง

ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 1

          หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลง ชุดสูทแบบไม่เป็นทางการยิ่งได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและสังคมในขณะนั้นที่เน้นความคล่องตัวมากขึ้น ยกเว้นสำหรับช่วงเวลาที่เป็นทางการที่เสื้อโค้ตแบบหางยาวยังคงถูกหยิบมาสวมใส่เพื่อเป็นการให้เกียรติผู้ร่วมงานเช่นเดิม หลังจากนั้นชุดสูทก็มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของทั้งเสื้อสูทตัวนอก (แจ็กเกต) กางเกง เนกไท รวมไปถึงรายละเอียดยิบย่อยอย่างกระดุม พ็อกเก็ตสแควร์ ฯลฯ ให้มีความเหมาะสมกับวิถีชีวิต กระแสความนิยมหรือแฟชั่น ในแต่ละช่วงเวลาอยู่เสมอ ผ่านการออกแบบและตัดเย็บจากช่างตัดสูทที่ต้องอาศัยความประณีตและชำนาญ

ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

          หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง การปรับเปลี่ยนรูปแบบของชุดสูทก็ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล้วนเป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อให้ชุดสูทสามารถสวมใส่ได้อย่างเป็นสากล ขณะเดียวกันก็มีความเรียบง่ายและทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยการผสมผสานกับแฟชั่นหรือค่านิยมในแต่ละยุคสมัย เพื่อให้ผู้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงชุดสูทได้ง่ายขึ้น และสวมใส่ได้หลากหลายโอกาส ต่างจากในอดีตที่ชุดสูทถูกจำกัดเฉพาะกลุ่มชนชั้นสูงหรือสวมใส่เฉพาะโอกาสที่เป็นทางการเท่านั้น

          และประวัติความเป็นมาของชุดสูทที่ลอร์ดเทเลอร์นำมาแชร์ให้คุณได้ทราบโดยสังเขป จะเห็นได้ว่า ชุดสูทตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน เรียกได้ว่าเป็นแฟชั่นเครื่องแต่งกายของผู้ชายชนิดหนึ่งได้เช่นกัน นั่นเพราะว่า ในแต่ละยุคสมัยรูปแบบของชุดสูทก็จะมีการสลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตามความนิยมที่หลากหลายอยู่ตลอด อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการชุดสูทที่สามารถส่งเสริมให้คุณมีบุคลิกภาพให้ดูดี โดดเด่น และเหมาะสมกับรูปร่างได้โดยช่างตัดสูทผู้เชี่ยวชาญนั้น สามารถติดต่อลอร์ดเทเลอร์ได้เสมอ ผ่านเว็บไซต์ https://lordstailor.com/ หรือโทร. +66 819020171

ขอขอบคุณข้อมูลจาก :  hmong.in.th

 

Be kind, share this on your pages:

Our opening times

Monday to Saturday 10.30am - 8.30pm & Sunday 11.30am - 4.30pm or by appointment

TRUNK SHOW DATES & SPECIALS

Please enter a valid email address.
Something went wrong. Please check your entries and try again.

SEE US ON SOCIAL MEDIA

Lords Tailor, 316 Sukhumvit road soi 14, KlongToey, Bangkok

We accept the following payment methods: