สูทผู้ชาย ในสายตาของคนทั่วไปที่ไม่ได้มีความคุ้นเคย อาจมองไม่เห็นถึงความแตกต่างของชุดสูทแต่ละรูปแบบมากนัก ทว่าในความเป็นจริงแล้ว ชุดสูทผู้ชายจะแฝงไปด้วยรายละเอียดยิบย่อยมากมายให้คุณได้เรียนรู้อยู่เสมอ หนึ่งในสิ่งสำคัญที่คุณจำเป็นต้องทราบเป็นอย่างแรกก็คือ ลำดับความเป็นทางการของชุดสูทผู้ชาย นั่นเพราะชุดสูทแต่ละแบบจะมีระดับความเป็นทางการไม่เท่ากัน การเลือกชุดสูทให้เหมาะสมกับโอกาสและสถานที่จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถบ่งบอกถึงการให้เกียรติและรู้จักกาลเทศะของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี

1. The Tails

ชุดสูท The Tails คือ ชุดสูทที่มีความเป็นทางการสูงสุด ประกอบไปด้วย เสื้อ Tailcoat และกางเกงที่ตัดเย็บด้วยผ้าชนิดเดียวกันและเป็นสีดำเสมอ โดยลักษณะที่สามารถสังเกตได้ชัดเจนที่สุดคือ ด้านหน้าของเสื้อ Tailcoat จะสั้นแตะระดับสะโพกของผู้สวมใส่เท่านั้น ส่วนชายเสื้อด้านหลังจะมีความยาวอยู่ในระดับหลังหัวเข่า ซึ่งบางคนอาจจะเรียกว่า “เสื้อโค้ตเพนกวิ้น”นอกจากนี้ สิ่งที่จะทำให้ชุดสูทแบบ The Tails สมบูรณ์แบบก็คือ การผูกด้วยโบไทสีขาว (White Bow Tie) โดยการใส่ชุดสูทแบบ The Tails นั้น จะพบได้ในโอกาสของงานที่ระบุ Dresscode ว่า Tails หรือ White Tie นั่นเอง

2. The Morning Dress

The Morning Dress คือ ชุดสูทที่เป็นทางการรองลงมาจาก The Tails ซึ่งมีความแตกต่างกันตรงที่ความยาวด้านหน้าของเสื้อโค้ตตัวนอกจะไม่ตัดที่ระดับสะโพก แต่จะไล่ระดับให้โค้งลงไปเชื่อมกับความยาวของหางด้านหลังที่ยังคงไว้ในระดับหลังหัวเข่าแทน โดยจะสวมใส่คู่กับเสื้อกั๊กสีเทาหรือสีครีม ส่วนกางเกงจะเน้นเป็นสีเทาลายทาง พร้อมผูกเนกไทด้วยโทนสีอื่นๆ แทนการผูกโบสีขาว โดยโอกาสในการสวมใส่ชุดสูทแบบ The Morning Dress นั้น ในปัจจุบันจะเห็นได้จากงานที่เป็นทางการอย่าง Royal Wedding ของราชวงศ์สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นในช่วงเวลา “กลางวัน”

3. The Dinner Suit

แน่นอนว่าหาก The Morning Dress เป็นชุดสูทที่มีไว้สำหรับสวมใส่ในช่วงเวลากลางวัน The Dinner Suit ก็คือ ชุดสูทที่มีไว้เพื่อสวมใส่ในช่วงเวลา “กลางคืน” นั่นเอง โดยชุดสูท The Dinner Suit หรือที่ชาวอเมริกันเรียกกันว่า ชุดทักซิโด (Tuxedo) ในปัจจุบันนั้น เป็นการดัดแปลงดีไซน์มาจากชุดสูทแบบ The Tails ซึ่งมีข้อสังเกต คือ โทนสีจะนิยมใช้สีดำทั้งเสื้อและกางเกง สวมใส่คู่กับเสื้อเชิ้ตสีขาวและผูกโบไทสีดำ (Black Bow Tie) เป็นหลัก โดยตัวเสื้อด้านนอกจะมีความยาวระดับสะโพกเท่านั้น และเพิ่มความโดดเด่นหรูหราของปกเสื้อจากความมันวาวของผ้าซาติน โดยจะนิยมใส่ในโอกาสของงาน ‘กลางคืน’ ที่ระบุ Dresscode ว่าเป็น Black Tie เท่านั้น

4. The Black Lounge Suit

ชุดสูทที่เหมาะสำหรับการใส่ร่วมงานที่จัดขึ้นในเวลากลางวัน และมีความเป็นทางการน้อยกว่าการใส่ The Morning Dress ก็คือ The Black Lounge Suit หรือ Stroller Suit ซึ่งมีความแตกต่างเพียงแค่ เปลี่ยนจากเสื้อโค้ตเพนกวิ้นเป็นเสื้อตัวนอกที่มีความยาวปกติหรือระดับสะโพกเท่านั้น โดยสีของเสื้อตัวนอก (แจ็กเกต) ไม่จำเป็นต้องเป็นสีเดียวกับกางเกงเหมือนชุดสูททั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น นั่นเพราะ The Black Lounge Suit หรือ Stroller Suit นั้นมีไว้เพื่อให้คุณผู้ชายสามารถสวมใส่ได้ในวันสบายๆ และลดความเป็นทางการลงนั่นเอง

5. The Business Suit

The Business Suit คือ ชุดสูทที่คนไทยน่าจะคุ้นเคยมากที่สุด เพราะเป็นชุดสูทที่สามารถใส่ได้ในหลากหลายโอกาส ซึ่งประกอบด้วย เสื้อเชิ้ตคอปกที่ผูกเนกไทไว้อย่างเรียบร้อย สวมทับด้วยเสื้อตัวนอกคู่กับกางเกงขายาวที่ใช้ผ้าชนิดเดียวกัน โทนสีเดียวกัน โดยมักจะใช้เนื้อผ้า Wool ผ้า High Twist Wool และผ้า Worsted Wool ซึ่งมีความหนาพอเหมาะ ทิ้งตัวได้ดี และเกิดรอยยับได้ยาก อีกทั้งโทนสีที่นิยมใช้เป็นหลักจะเป็นโทนสีเข้มๆ และหลีกเลี่ยงการมีลวดลายบนเนื้อผ้า เช่น สีดำ สีน้ำเงินเข้ม หรือสีเทาเข้ม เป็นต้น เพื่อเสริมให้บุคลิกของผู้สวมใส่มีความสุขุมและน่าเชื่อถือ

6. The Casual Suit

ลดระดับความเป็นทางการ เพิ่มความเป็นแฟชั่นได้มากยิ่งขึ้น ด้วยชุดสูทแบบ The Casual Suit หรือชุดสูท “ลำลอง” ที่มีความแตกต่างจาก The Business Suit ตรงที่คุณสามารถเพิ่มลูกเล่นให้กับชุดสูทของคุณได้มากขึ้น แม้ว่าจะยังยึดหลักของโทนสีของเสื้อตัวนอกคู่กับกางเกงในโทนสีเดียวกัน แต่ The Casual Suit สามารถให้อิสระกับคุณได้มากกว่านั้น ด้วยโทนสีสันสดใสขึ้น เนื้อผ้ามีลวดลายได้หลากหลายขึ้น ชนิดของผ้าที่นำมาใช้ตัดก็ให้ความรู้สึกที่สวมใส่สบายมาก ซึ่งเป็นชุดสูทที่คุณสามารถสวมใส่ได้ในโอกาสที่ไม่ได้ต้องการความเป็นทางการมากนัก

7. The Separates

ปิดท้ายด้วยชุดสูทที่เป็นทางการน้อยที่สุด แต่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้มากที่สุด นั่นเพราะว่า The Separates จะทำให้คุณผู้ชายสามารถสนุกกับการแต่งตัวได้มากขึ้น เพียงแค่มีเสื้อตัวนอกสวยๆ สักตัว ก็สามารถจับคู่กับเสื้อยืด เสื้อเชิ้ต หรือเสื้อโปโลได้ง่ายๆ ส่วนกางเกงก็สามารถเลือกได้ตั้งแต่กางเกงผ้า กางเกงสแล็ค ตลอดจนกางเกงยีน ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากเพิ่มหรือลดความเป็นทางการมากน้อยแค่ไหน

ลำดับความเป็นทางการของชุดสูทผู้ชายทั้ง 7 ลำดับข้างต้น ลอร์ดเทเลอร์หวังว่าจะสามารถช่วยให้คุณผู้ชายที่อาจจะไม่เคยตัดชุดสูทมาก่อน ได้ทำความรู้จักกับประเภทของชุดสูททั้งหมดที่คุณควร รวมทั้งไขข้อสงสัยของคุณผู้ชายที่กำลังสับสนว่าชุดสูทที่มีอยู่นั้น สามารถนำมาใส่ในโอกาสไหนได้บ้าง ต้องแต่งอย่างไรให้ถูกต้องและเหมาะสม และสำหรับบทความถัดไป ลอร์ดเทเลอร์จะนำเสนอเรื่องราวของชุดสูทผู้ชายในด้านใด โปรดติดตามกันต่อไปนะคะ