ขึ้นชื่อเรื่อง ‘สูท’ แน่นอนว่าต้องมาคู่กับรายละเอียดยิบย่อยให้คุณได้คอยสังเกตและขมวดคิ้วสงสัยกันแทบทุกสัดส่วนเลยทีเดียว ในรอบนี้ ลอร์ดเทเลอร์จึงขอพาคุณสำรวจด้านหลังเสื้อสูทที่หลายคนอาจไม่ค่อยได้สนใจกันมากนักอย่าง ‘รอยผ่าด้านหลัง’ ของเสื้อสูท (Vent) ซึ่งเป็นรายละเอียดที่จะช่วยให้การออกแบบสูทมีความเป็นตัวคุณมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้น ลอร์ดเทเลอร์จึงอยากให้คุณได้ทำความรู้จักรอยผ่าด้านหลังของเสื้อสูทว่าแต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร และมีประโยชน์อย่างไรบ้าง เพื่อให้คุณสวมใส่สูทได้อย่างมั่นใจและสะท้อนความเป็นตัวเองได้มากที่สุด

รอยผ่าด้านหลังของเสื้อสูท (Vent) คือ รอยผ่าที่อยู่ตรงปลายลำตัวด้านหลังของเสื้อสูท ซึ่งจะมีทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ เสื้อสูทแบบไม่มีรอยผ่า (No Vent) เสื้อสูทแบบมีรอยผ่าหลังตรงกลางรอยเดียว (Single Vent) และสุดท้าย เสื้อสูทแบบมีรอยผ่าคู่กันทั้งซ้ายและขวา (Double Vent)

1. เสื้อสูทแบบไม่มีรอยผ่า (No Vent)

เสื้อสูทแบบนี้มีต้นกำเนิดจากประเทศอิตาลีที่ขึ้นชื่อเรื่องของแฟชั่นและความเนี้ยบในการเลือกสูทของผู้ชาย การสวมเสื้อสูทแบบไม่มีรอยผ่าแบบนี้ เมื่อกลัดกระดุมสูทจะทำให้ด้านหลังของสูทโอบกระชับสะโพก เน้นให้สรีระของผู้สวมใส่ดูเข้ารูป และทำให้สูทดูเรียบง่ายแบบ minimal มากขึ้น

ส่วนข้อเสียของสูทแบบ No Vent นั่นก็คือ เมื่อสวมใส่จะทำให้คุณเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงได้ลำบาก และ เกิดรอยยับที่ไม่น่าดูได้ง่าย ดังนั้น เสื้อสูทแบบไม่มีรอยผ่าด้านหลังจึงไม่เหมาะกับผู้ชายที่ชอบยืนล้วงกระเป๋านั่นเอง

2. เสื้อสูทแบบมีรอยผ่าด้านหลัง 1 รอย (Single Vent)

เสื้อสูทแบบนี้ไม่ได้ถูกคิดกันขึ้นมาโดยบังเอิญแต่อย่างใด เพราะเสื้อสูทแบบมีรอยผ่าด้านหลังรอยเดียวนั้น ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อให้เกิดประโยชน์ในเวลาที่ผู้สวมใส่นั่งอยู่บนหลังม้าที่ใช้เดินทาง โดยรอยผ่า 1 รอยตรงกลางนี้จะแยกเสื้อสูทออกเป็นสองส่วนคลุมบนหลังม้า ทำให้การขี่ม้าสามารถทำได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้นแม้ต้องสวมเสื้อสูท

ในทางกลับกัน แม้ว่าสูทแบบ Single Vent จะดูมีประโยชน์มากกว่าสูทแบบ No Vent ก็ตาม แต่ประโยชน์ที่ว่าก็จะมีแค่เฉพาะเวลาที่ต้องใช้สวมใส่ขณะขี่ม้าเท่านั้น เพราะในเวลาปกติ สูทแบบ Single Vent แบบนี้ก็มีปัญหาในเรื่องการล้วงกระเป๋ากางเกงแทบไม่ต่างอะไรกับสูทแบบ No Vent เลย นอกจากนี้ เมื่อคุณยืนล้วงกระเป๋าขณะใส่สูทแบบ Single Vent รอยผ่าตรงกลางจะดึงแยกสูทออกจากกันเป็นสองส่วนซ้ายขวา ทำให้เปิดตรงกลางให้เห็น “ก้น” ได้อย่างชัดเจนอีกด้วย

3. เสื้อสูทแบบมีรอยผ่าด้านหลัง 2 รอย (Double Vent)

เสื้อสูทแบบนี้จะมีรอยผ่าแบบเดียวกับ Single Vent แต่แทนที่จะมีแค่รอยเดียว สูทแบบ Double Vent จะแถมเพิ่มมาให้อีก 1 รอย กลายเป็น 2 รอย โดยจะอยู่ทางซ้ายและขวาของด้านหลังเสื้อสูท ซึ่งแน่นอนว่า สูทแบบ Double Vent สามารถกำจัดปัญหาเรื่องการล้วงกระเป๋าไปจนหมดสิ้น เพราะรอยผ่าสองรอยจะทำให้เสื้อสูทด้านหลังไม่เกิดรอยยับใดๆ เวลาล้วงกระเป๋า สูทจะอยู่ทรงได้ดีกว่าและเกิดรอยยับน้อยกว่าสูทแบบ No Vent หรือ Single Vent รวมถึงการเคลื่อนไหวก็สะดวกสบายและทะมัดทะแมงมากกว่า

อย่างไรก็ตาม สูทแบบ Double Vent มีข้อเสียสำคัญนั่นก็คือ หากคุณเป็นคนที่มี “ก้นใหญ่” สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ก้นของคุณจะไปดันส่วนกลางด้านหลังของเสื้อสูทให้ลอยขึ้นมา ซึ่งมันจะไปเน้นความใหญ่ของก้นของคุณให้ชัดเจนขึ้นไปอีก ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องระวังให้ดีเช่นกัน

แล้วคุณต้องเลือกแบบไหนดี?

ถ้าคุณเน้นประโยชน์ใช้สอยและความทะมัดทะแมงเวลาใส่สูท อีกทั้งชอบยืนล้วงกระเป๋ากางเกง คำตอบคงหนีไม่พ้นต้อง Double Vent เป็นหลัก แต่ถ้าหากคุณเป็นคนไม่แคร์เรื่องการล้วงกระเป๋า ชอบใส่เสื้อผ้าแบบเข้ารูปพอดีตัวเพื่อให้ดูมีส่วนเว้าส่วนโค้งมากขึ้น เสื้อสูทแบบ No Vent จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับคุณมากกว่า ซึ่งหากคุณต้องการความสะดวก คล่องตัวขึ้นมาอีกนิด เสื้อสูทแบบ Single Vent จึงตอบโจทย์คุณมากที่สุด

เรื่องของรอยผ่าหลังของเสื้อสูทนี้ เป็นรายละเอียดที่จะว่าสำคัญก็สำคัญ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นเป็นเรื่องที่ต้องกังวลในการเลือกซื้อสูทมากขนาดนั้น หากคุณโชคดีได้ช่างตัดสูทมากฝีมือที่สามารถซ่อนจุดบกพร่อง และดึงจุดเด่นของคุณออกมาให้ดูดีได้ด้วยชุดสูทอย่างลงตัว คุณก็สามารถวางใจได้เลยว่าคุณจะได้สูทที่ทำให้คุณดูดี และมีเสน่ห์ในแบบของตัวเองได้มากที่สุด ซึ่งลอร์ดเทเลอร์สามารถเนรมิตชุดสูทคุณภาพดีโดยช่างตัดสูทมืออาชีพให้คุณได้อย่างไร้ที่ติ ติดต่อได้ที่ เว็บไซต์ https://lordstailor.com/ หรือโทร. +66 819020171